การบริหารงานโครงการ (Project Management) ให้ประสบความสำเร็จ มักมาจากการจัดการโครงการที่ดีของ “Project Manager” … โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่ “การบริหารจัดการโครงการ” มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นกับ ‘PM’ อีกหลากหลายประการ ทั้งในแง่ของวิธีการ การวางแผน การดำเนินการ ไปจนถึงการส่งมอบโครงการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

อีกหนึ่งผลสำรวจที่น่าสนใจซึ่งการันตีถึงการเติบโตและความสำคัญของอาชีพนี้ โดยเราพบว่า ในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า (ภายในปี 2033) ความต้องการบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโครงการจะเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 25 ล้านตำแหน่งงานในทุกแวดวงอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อให้ตอบรับกับลักษณะการบริหารงานของธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบ ‘Project’ มากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถบริหารจัดการทรัพยากรทั้งหมดขององค์กรให้สำเร็จตามเป้าหมายและกำหนดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบ คล่องตัว รวดเร็ว พร้อมกับความสามารถในการปรับตัวได้อย่างต่อเนื่องและเท่าทันกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การพบเจอกับลักษณะการบริหารงานที่ซับซ้อน ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลง ทรัพยากรมีมูลค่าสูงขึ้น หรือแม้แต่ความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริหารโครงการ เป็นต้น

ซึ่งแน่นอนว่า หากศึกษาจากลักษณะการทำงานที่กล่าวมา  … นอกจาก PM ที่ดี ควรจะต้องมีทักษะความรู้ในด้านการวางแผนการดำเนินการ (Schedule Plan) / แผนการเงิน (Financial Plan) / แผนการสื่อสาร (Communication Plan) / แผนจัดการความเสี่ยง (Risk Management Plan) รวมถึงแผนการจัดซื้อจัดหา (Procurement Plan) แล้ว ยังมีทักษะและคุณสมบัติอะไรอีกบ้างที่จะเป็นส่วนเสริมและยกระดับศักยภาพเพื่อให้การบริหารโครงการของ ‘PM’ สำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น !?
 

1) การวางแผนและการจัดการทรัพยากร
ผู้บริหารโครงการควรมีความรู้ ความสามารถในการวางแผนการดำเนินงานทั้งในระยะยาวและระยะสั้น รวมถึงเชี่ยวชาญในการจัดการทรัพยากรทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง อาทิ งบประมาณ บุคลากร และเวลา เพื่อให้โครงการดำเนินไปตามกำหนดระยะเวลาควบคู่ไปกับการจัดสรรและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 

2) การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและนำเสนอได้จูงใจคน
‘ทักษะการสื่อสาร’ ถือเป็นสิ่งสำคัญในบทบาทของ Project Manager เพราะต้องมีการสื่อสารกับทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง เช่น ทีมงาน ผู้บริหารและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจเป้าหมายและหน้าที่ของโครงการได้อย่างถูกต้องตรงกัน ดังนั้น Project Manager ขั้นเทพ จะต้องฝึกฝนทักษะดังกล่าวจนสามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ  สื่อสาร เข้าใจง่าย น่าฟัง น่าเชื่อถือและมีเหตุผลสนับสนุนให้คล้อยตามบนพื้นฐานของความจริงและความเป็นมืออาชีพ


3) การควบคุมและการติดตามงาน
Project Manager ต้องมีทักษะความสามารถในการติดตามความคืบหน้าของโครงการและควบคุมสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยใช้ตัวชี้วัดและระบบควบคุมที่เหมาะสม

4) การปรับตัวและการเรียนรู้
ควรเป็นคนที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองเพื่อให้สามารถทำงานในสภาวะที่ซับซ้อนได้

5) สามารถสร้างแรงกระตุ้น (Motivation) ให้กับทีม
การสร้างพลังบวกให้กับทีมถือเป็นสิ่งสำคัญที่ ‘Project Manager’ ควรมี รวมทั้งการสร้างแรงกระตุ้นและสนับสนุนในการทำงานให้กับทีมอย่างต่อเนื่องเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานและปฏิบัติงานในส่วนต่างๆ ของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

6) รับมือกับอุปสรรคที่ต้องเผชิญ
ปัญหาหรืออุปสรรคว่าไปแล้วมีอยู่ในทุกสายงาน … แต่เมื่อเป็น Project Manager แล้ว คุณอาจต้องพบกับอุปสรรคจากหลายทิศทาง การตัดสินใจในการแก้ปัญหาจึงอยู่ที่ Project Manager โดยจะต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่า ปัญหาไหนสำคัญที่สุด? อะไรควรแก้ไขก่อน? ควรแก้ไขในเวลาใด? หรือ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร? เป็นต้น  

7) รับหน้ากับปัญหาที่อาจ (ถาโถม) เข้ามา
เราสามารถกล่าวได้ว่า Project Manager ต้องรับหน้ากับทุกปัญหาก่อนเสมอ นั่นก็คือ ‘ลูกค้า’ โดยต้องทำหน้าที่ในการเจรจากับลูกค้า หรือในกรณีที่ต้องมีการปรับแก้ชิ้นงานก็ต้องดำเนินการต่อรองให้มีการแก้ไขน้อยที่สุด พูดง่ายๆ ก็คือ ‘Project Manager’ ควรจะต้องมีทักษะในการควบคุมอารมณ์ที่ดี โดยเฉพาะการรับคอมเมนต์งานต่างๆ จากลูกค้า

8) มีทักษะการเจรจาที่เป็นเลิศ
Project Manager ต้องทำงานกับคนหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ระดับพนักงานทั่วไป ไปจนถึงระดับผู้บริหาร และพบปะลูกค้าในบางครั้ง ดังนั้น … ทักษะเรื่อง ‘การเจรจา’ จึงถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะการใช้ภาษาในการเจรจากับคนแต่ละระดับการทำงาน เพื่อให้ได้ผลงานที่ออกมาตรงกับเป้าหมายมากที่สุด

9) ทักษะด้านการวางแผนงานเป็นเลิศ
ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดแผนใหญ่ไล่ลงมาถึงแผนย่อย การกำหนดการประชุมทีม การนัดพรีเซนต์งานลูกค้า การทำให้ระบบงาน หรือ Flow งานลื่นไหลและการกระจายงาน เป็นต้น

10) เทคนิคการบริหารความเสี่ยงและจัดการกับความเปลี่ยนแปลง
การมีความรู้ในการระบุและบริหารความเสี่ยงและความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นในโครงการและวางแผนเพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงถือเป็นอีกทักษะที่ช่วยเพิ่มความก้าวหน้าให้กับผู้บริหารโครงการได้มากขึ้น โดยจะต้องสามารถบริหารโครงการให้มีความยืดหยุ่นรองรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงจะต้องได้รับความร่วมมือจากคนในองค์กรหรือในทีมจึงจะทำให้เกิดการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อนี้ ทุกท่านสามารถทำความเข้าใจและนำไปปรับใช้สำหรับ ‘การบริหารโครงการ’ กันได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็นโครงการประเภทใดก็ตาม … ขอเพียงผู้บริหารโครงการมีความเข้าใจในทักษะและมิติต่างๆ ย่อมช่วยให้โครงการของเราประสบสำเร็จได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้แน่นอน !!!

สนใจเรียนรู้เทคนิคการบริหารโครงการแบบ Step by Step เริ่มตั้งแต่แนวคิด กระบวนการ ขั้นตอน การบริหารจัดการ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่วางไว้และสามารถ “ปิดโครงการ” อย่างสำเร็จลุล่วง เราขอแนะนำหลักสูตรออนไลน์ Project Management for Success (การบริหารโครงการสู่ความสำเร็จขององค์กร) ซึ่งดำเนินการสอนโดย วิทยากรผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สอนและเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำต่างๆ รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมในตำแหน่งผู้บริหารมากกว่า 20 ปี ที่จะช่วยให้คุณมีสกิลที่ดีในการบริหารทุก Project พร้อมเปิดรับและพัฒนาทักษะของตนเองเพื่อต่อยอดในสายอาชีพให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ลงทะเบียนซื้อหลักสูตรหรือรับชมวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.spaceship.in.th/courses/77/info