ไขข้อสงสัย ทำไม Dev ต้องเขียน ‘Code’ ให้ ‘Clean’ !?
การเขียนโค้ดที่สะอาด หรือ ‘Clean Code’ ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา Program & Software ที่นักพัฒนาหลายๆ ท่านไม่ควรมองข้าม เพราะ ‘Code’ ที่ ‘Clean’ นั้นจะง่ายต่อการทำความเข้าใจ สะดวกต่อการบำรุงรักษาหรือแม้แต่การนำไปพัฒนาต่อยอดโดย Developer คนอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณจะต้องสร้าง Software ที่มีคนใช้งานจริงๆ ในระยะยาว การที่คุณจะต้องมานั่ง Coding ใหม่อยู่เรื่อยๆ นั้น คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก และในทางกลับกันหากเราต้องใช้ Code นั้นเพื่อการทำงานแต่คนในทีมกลับอ่าน Code ของคุณไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ และไม่สามารถนำไปใช้พัฒนาต่อได้ ‘Code’ ของคุณก็เป็นแค่ขยะ!
ลองจินตนาการเล่นๆ ดูว่า วันหนึ่งหากเราได้รับมอบหมายจากหัวหน้าโดยต้องเข้าไปแก้ไข ‘Code’ ที่มันไม่สะอาด มีความซับซ้อน ยุ่งยากหรือดูรกรุงรัง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน ก็คือ …
- ต้องทำการแก้ไข Code หลายจุดเพราะไม่รู้ต้นตอของปัญหาและข้อผิดพลาดทั้งหมด
- ต้องแก้ไข Code ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจกระทบต่อส่วนอื่นได้ เนื่องจาก Code มีความซับซ้อน
- ยากต่อการนำไปพัฒนาต่อและเสียเวลา … ดีไม่ดีเราอาจต้องเขียน Code ขึ้นมาใหม่เองทั้งหมดอีกรอบ
รู้อย่างนี้แล้ว … มาพัฒนา Coding Skills ของคุณให้ดีขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการอ่านและทำความเข้าใจ ลดข้อบกพร่องต่างๆ ของรูปแบบการเขียน Code ที่หลากหลาย เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานทั้งในแง่ของการพัฒนา Application / Software / Program ทั้งหมด ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกันดีกว่า !!!
➖ เพราะเหตุใด Clean Code จึงมีความสำคัญ? ➖
1) มีต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำกว่า
‘Clean Code’ ทำให้กระบวนการพัฒนาง่ายขึ้นและลดเวลาของนักพัฒนาในการทำความเข้าใจ Debug และบำรุงรักษา ‘Code’ ส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาลดลงและสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2) ช่วยให้การบำรุงรักษา ‘Code’ ทำได้ง่ายขึ้น
‘Clean Code’ ทำให้การระบุและแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ Program & Software ที่เราพัฒนาอยู่มีจุดบกพร่องน้อยลงและเพิ่มความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ‘Clean Code’ ยังปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่า รวมถึงสามารถปรับให้เข้ากับข้อกำหนดและเทคโนโลยีต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
3) ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของ Dev. ให้มีประสิทธิภาพ
เมื่อ ‘Code’ เข้าใจง่ายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการสื่อสารร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีม โดยจะช่วยให้นักพัฒนาแต่ละท่านเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ ฟังก์ชันการทำงาน และโครงสร้างของ ‘Code’ ได้อย่างรวดเร็ว ทำงานร่วมกันได้คล่องตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ของการปรับใช้งานฟังก์ชันใหม่ๆ หรือแม้แต่การแก้ไขปัญหา ‘Code’ ได้ตรงจุดและใช้เวลาไม่นาน
4) เพิ่มคุณภาพของ Software ที่ดีขึ้น
เทคนิคการเขียน ‘Clean Code’ จะช่วยส่งเสริมให้การสร้าง ‘Software’ มีคุณภาพสูงขึ้น เนื่องจากนักพัฒนาปฏิบัติตามมาตรฐานด้วยแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ทำให้ ‘Code’ ที่ออกมามีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5) สร้างความพึงพอใจของนักพัฒนา (Developer)
การเขียน ‘Clean Code’ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับนักพัฒนา ช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและนำไปสู่ความพึงพอใจในการทำงานหรือการพัฒนา Software ที่ดีขึ้นและเป็นมืออาชีพ
อ่านมาถึงตรงนี้เราก็ขอเชิญชวนให้เพื่อนๆ ทุกคนย้อนกลับไปดู Code ของตัวเองว่ามีข้อบกพร่องอยู่บ้างหรือเปล่า? ถ้ามีแล้วล่ะก็อย่าลืมไปจัดการแก้ไขให้ถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาความยุ่งยากของการพัฒนาโปรแกรมที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า … ถ้าคุณพยายามทำ ‘Code’ ให้ ‘Clean’ จนติดเป็นนิสัย มันจะดีต่อตัวคุณเองอย่างแน่นอน และที่สำคัญยังเป็นคุณสมบัติอีกหนึ่งอย่างที่หัวหน้างานมัก “คาดหวัง” จากตัว Programmer & Developer อีกด้วยนะ!
** สนใจพัฒนา Coding Skills พร้อมเรียนรู้เทคนิคดีๆ เพื่อการเขียน Java Clean Code แบบฉบับ Programmer มือโปร เรามีหลักสูตรออนไลน์ Java Clean Code, How to Become A Better Programmer (ซึ่งสอนโดย Java Technology Trainer) ที่จะมาถ่ายทอดความรู้พื้นฐานและเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยให้การ Coding ของคุณดูดีเป็นมืออาชีพ มีระบบ เข้าใจง่าย สะดวกต่อการพัฒนาและนำไปต่อยอดใช้งานรวมถึง ‘Clean’ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
เนื้อหาที่คุณจะได้เรียนรู้จากหลักสูตรที่สอนโดย อ.สุรศักดิ์ อุทัยธรรม | Java Technology Trainer ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
➖ เทคนิคการเขียน Code (Clean Code) และการออกแบบ Code/Program ที่ดี สั้น กระชับ
➖ เรียนรู้รูปแบบการเขียน Code ที่หลากหลายเพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต
➖ ทราบถึง Guideline หรือข้อกำหนดพื้นฐานที่จะเป็นแนวทางการเขียน Code ที่ดี มีคุณภาพ เป็นระบบ เข้าใจได้ง่าย ง่ายต่อการนำไปพัฒนาหรือแม้แต่บุคคลภายนอกที่อาจต้องเข้ามาทำงานกับ Code ของคุณ เพื่อให้แนวทางการทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างง่ายและสะดวกมากขึ้น
** สามารถดูรายละเอียดและตัวอย่าง VDO ของหลักสูตรเพิ่มเติมได้เลยที่ **
https://www.spaceship.in.th/courses/38/info