หากพูดถึง “การเปลี่ยนแปลง” หรือ “ปัญหา” แน่นอนว่า … คงไม่มีใครชอบและอยากเจอบ่อยๆ แต่ในโลกของการทำงาน เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับ 2 สิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เมื่อเราเจอแล้วจะปรับตัวหรือรับมืออย่างไร? เพราะยิ่งปรับตัวได้เร็วจะทำให้เราตามทันโลกที่เปลี่ยนไปได้ แต่ในทางตรงกันข้ามหากเราไม่ยอมปรับตัวและเปลี่ยนแปลง ต่อให้มีความสามารถและเก่งแค่ไหนก็อาจตามโลกไม่ทัน แถมปัญหาก็ยังไม่ถูกแก้ไข เมื่อเวลาผ่านไปอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงเป็นวงกว้างได้

โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดคิดไม่ว่าจะเป็นการ Disruption ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนผู้คนต่างมุ่งหวังที่จะ “ประสบความสำเร็จในชีวิต” กันมากขึ้น แต่การมีเพียง IQ หรือ EQ นั้นคงไม่พอที่จะทำให้คนๆ หนึ่ง “ประสบความสำเร็จได้ดีเท่าที่ควร” พูดง่ายๆ ก็คือ นอกจาก IQ และ EQ ที่ดีแล้ว มนุษย์ออฟฟิศในยุคนี้ทั้งระดับพนักงานหรือผู้บริหารทุกคน … จำเป็นจะต้องมี ‘AQ’ เข้ามาเสริมด้วย!


[ AQ คืออะไร? ]
Adversity Quotient หรือ ‘AQ’ เป็นทฤษฎีที่ Dr. Paul G. Stoltz ได้คิดค้นขึ้นมา โดยเป็นทักษะในการ “ปรับตัว” เข้ากับสถานการณ์หรือความฉลาดในการรับมือกับปัญหา ซึ่งหมายถึงความสามารถทั้งกายและใจในการเผชิญกับปัญหาและก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ท้าทาย โดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ พยายามเอาชนะอุปสรรคที่เกิดขึ้นด้วยการตั้งเป้าหมายว่าจะต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ไม่ยอมแพ้หรือล้มเลิกไปกลางคัน เดินหน้าสู้ต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ พร้อมแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และสามารถปรับตัวได้อย่างเท่าทันอยู่ตลอดเวลา 


[ วิธีการตรวจสอบเบื้องต้นว่าตัวเรานั้นมี AQ หรือไม่ !? ]
หากพูดถึงประเด็นเรื่องของการตรวจสอบว่าเรามี ‘AQ’ หรือไม่นั้น … อาจต้องเริ่มจากการถามตัวเองก่อนว่า
‘หากมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว … สิ่งแรกที่ตัวเราเองจะทำคือ การเผชิญหน้า หรือ หนีปัญหา?’

ซึ่งหากเราเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน ตัวเรานั้นสามารถที่จะรับมือและแก้ไขปัญหาเหล่านั้นจนสำเร็จหรือไม่? ถ้าหากคำตอบคือ “เรายังไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้ทั้งหมด” แสดงว่าตัวคุณยังมี ‘AQ’ ไม่มากพอแต่ก็สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ แต่ถ้าคุณคิดว่า “ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาเป็นความท้าทายและอยากที่จะแก้ไขมันให้ถึงที่สุดและพยายามจนสำเร็จ แสดงว่าคุณเป็นคนที่มี ‘AQ’ อยู่เต็มตัว” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยทีเดียว

แต่ทราบหรือไม่ว่า?  ‘AQ’ เป็นทักษะที่หลายๆ คนอาจจะมีขึ้นด้วยตัวเองโดยธรรมชาติ … แต่ใครที่รู้ตัวว่าไม่มีทักษะนี้ ก็สามารถฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะนี้ให้ดีขึ้นได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นตัวทดสอบความอดทนแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อพัฒนาชีวิตและการทำงานให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถลองฝึกตามข้อแนะนำด้านล่างเพื่อพัฒนา ‘AQ’ กันดูได้เลยค่ะ
1. พยายามอดทนต่อปัญหาต่างๆ ที่พบเจอและเกิดขึ้น
2. มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอโดยคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นสามารถแก้ไขได้ รวมถึงปัญหาเหล่านั้นจะเป็นตัวเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับชีวิตของเรา
3. รับผิดชอบอยู่เสมอและไม่ละทิ้งหรือโยนปัญหาให้ผู้อื่นรับแทน
4. สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งสถานการณ์ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
5. มีความรอบคอบและรู้จักยั้งคิดก่อนตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง
 

คนที่ ‘AQ สูง’ คือ คนที่มีความฉลาดในการแก้ไขปัญหา มีความอดทน และไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาที่มีอยู่ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหนและมีหน้าที่การงานอะไร ก็จะหนีไม่พ้นปัญหาต่างๆ ที่จะเข้ามาทดสอบเราอยู่เสมอ โดยถือเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ส่งเสริมให้เรามีความพร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาและมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ เราควรให้ความสำคัญและพัฒนาทักษะ IQ, EQ และ AQ ควบคู่ไปด้วยกันอย่างเป็นระบบ หากคุณทำได้จริง … ไม่ว่าคุณจะสมัครงาน กำลังมองหางานใหม่ หรือต้องการก้าวหน้าในสายงานที่ทำอยู่ เชื่อได้เลยว่า ‘ความสำเร็จ’ ในหน้าที่การงานจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน! ^^


ถอดรหัสความสำเร็จ!!! ของการพัฒนา AQ ให้ตัวคุณและทีมงาน เพื่อฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ มีความยืดหยุ่นในการทำงานและเอาชนะทุกปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายพร้อมสร้างความเติบโตแก่ทีมงานและองค์กรได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยหลักสูตรออนไลน์ Problem Solving with Adversity Quotient (สยบทุกปัญหาด้วยทักษะ AQ) โดยครูเปิ้ล สุดารัตน์ ศิริวรางกูร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพด้วยจิตวิทยา ประสบการณ์ยาวนานในการเป็นที่ปรึกษาพัฒนา Soft Skills ให้องค์กรระดับมหาชน

คลิกรับชมเนื้อหาและตัวอย่างการสอนได้ที่ : https://www.spaceship.in.th/courses/33/info